ปี 2022 เทรนด์สีพาสเทลกำลังมา และจะดีแค่ไหน หากขนมไทยจะกลายเป็นสีพาสเทลสุดคิวท์ น่ารักน่าชิมกันบ้าง ร้านเห่ชม ร้านขนมไทยชื่อดังย่านท่าเตียนก็ไม่รอช้า จับเอาสองเมนูขนมยอดนิยม อย่าง บัวลอย และซาหริ่ม มาแต่งตัวเสียใหม่ และเพื่อให้กินได้สนุก กินได้บ่อยๆ เห่ชมได้ลดความหวานดีต่อสุขภาพ เอาใจวัยรุ่นสายเฮลตี้

• บัวลอยสามเกลอ : บัวลอยสามสีสามพี่น้อง คนพี่ทำมาจากเผือกสีขาวละมุน นกลางทำจากฟักทองสีเหลืองนวล และน้องคนสุดท้องทำจากมันม่วง สีม่วงอ่อนสมชื่อ เสิร์ฟพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อน ก่อนราดด้วยน้ำกะทิอุ่นๆ รสสัมผัสหนึบหนับ หวาน เค็ม มัน อร่อยอย่างลงตัว
• ซาหริ่ม : ถึงแม้ว่าชื่ออาจจะคล้ายเมนูดั้งเดิม แต่ที่เพิ่มเติม คือ เห่ชมได้ใส่ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ไปอย่างเต็มที่ เส้นซาหริ่มสีพาสเทลเหนียวนุ่ม บีดสดใหม่ วางท็อปด้วยน้ำตาลโตนดจากเพชรบุรีที่แกะสลักเป็นรูปดอกไม้ น้ำกะทิก็นำไปแช่เย็นก่อนไปปั่นจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยขนุนสีเหลืองทอง เสิร์ฟในหม้อสีดำ ก่อนทานเค้ามีเซอไพรส์ ด้วยการปล่อยควันเย็นๆ จาก dry ice ทำเอาสาย Instramer อย่างเราๆ ต้องหยิบกล้องมาถ่าย Story โพสต์ลง Facebook หรือ IG ทำอย่างไรได้ ก็เมนูสวยขนาดนี้ ต้องขอพื้นที่ camera eat first ก่อนทานละกัน

ร้านขนมไทยขึ้นห้าง คงไม่อาจกล่าวเกินความจริงไปนัก เพราะร้านเสน่ห์ ขนมไทย (Sane Café & Workshop) เค้ามักแวะเวียนไปออกบูธตามงานอีเวนท์ หรือห้างสรรพสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะรสชาติที่อร่อย หอมหวาน ขนาดพอดีคำ ทานได้ทุกเพศทุกวัย จะซื้อไปทานเองก็ได้ หรือนำไปเป็นของฝากก็ดี มีแพ็คเกจจิ้งสวยงาม และสำหรับโครงการ Thai Dishcovery ร้านเสน่ห์ ได้นำเอาขนมไทย 8 ชนิด มาจัดเป็นเซ็ท คล้ายชุด Afternoon Tea เป็นเซ็ทโอมากาเสะขนมหวานแบบไทย ขนมแต่ละชนิด บ้างก็เป็นขนมไทยโบราณ บ้างก็เป็นขนมไทยที่หารับประทานได้ยาก ประกอบไปด้วย เสน่ห์จันทร์, ทองเอก, สัมปันนี, อาลัว, ข้าวเหนียวมะม่วง, ขนมต้ม, ขนมเปียกปูน และชีสเค้กสังขยา ซึ่งเชฟจะคอยบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของขนมแต่ละชิ้นระหว่างรับประทานด้วย  และวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือเทศกาลพิเศษ ทางร้านจะมีกิจกรรม Workshop ขนมไทย ให้ทุกคนได้มาร่วมสนุกกัน

ขนมไทย คือ งานศิลปะที่รับประทานได้ และขนมไทยจากร้านชฎา ก็คือบทพิสูจน์ว่าจริงดังคำพูดนั้น เพราะขนมไทยจากร้านนี้โดดเด่นด้านดีไซน์ที่ร่วมสมัย สวยหรู ดูแพง แต่ยังคงรสอร่อยแบบไทยแท้ดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

• ทาร์ตทองมงคล : หนึ่งในเมนูขนมที่ดีไซน์สวยงามที่สุดของโครงการ Thai Dishcovery Season 2 ขนมทาร์ตที่จัดเรียง อัดแน่นไปด้วยเรื่องราว และความหมายดีๆ ของมงคลถึง 5 ชนิด
  • ทองเอก : ราชินีแห่งขนมไทย นิยมมอบให้ในวาระสำคัญโอกาสพิเศษ เป็นของขวัญฉลองความสำเร็จ เป็นคำอวยพรให้เจริญในหน้าที่การงาน เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ประสบความสำเร็จในการเจรจาทางธุรกิจต่างๆ ให้เป็นที่หนึ่งสมดังกับชื่อของขนม
  • เสน่หจันทร์ : ขนมที่แสดงออกถึงความมีเสน่ห์ เป็นที่รักใครเอ็นดูของทุกคน
  • ทองไพฑูรย์ : สื่อถึงความมีอำนาจ ความเป็นผู้นำที่ทุกคนยอมรับให้การยกย่อง
  • ทองนพคุณ : สื่อถึงความเป็นมงคล อุดมด้วยลาภยศสรรเสริญ คุณงามความดีที่มีค่าดุจทองคำ
  • หินฝนทอง : ขนมไทยโบราณที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน สื่อถึง ความร่ำรวย มั่งมีด้วยทรัพย์สินเงินทอง ใช้เงินอย่างรอบคอบระมัดระวัง
• ผกากรองแบล็คทรัฟเฟิล : ลืมขนมผกากรองช่อดอกไม้ที่หอมกลิ่นอบควันเทียนแบบเดิมไปได้เลย ร้านชฎาได้ยกระดับขนมผกากรองให้มีความร่วมสมัย หากไม่บอกก็คงคิดไม่ถึงว่านี่เป็นขนมไทย แป้งเนื้อเหนียวเนียนละเอียด สีสันขาวดำชวนแปลกตา เพิ่มความหรูหราด้วยแผ่นทองคำเปลว ส่วนกลิ่นหอมๆ ชวนลิ้มลองนั้น มาจากแบล็คทรัฟเฟิล เสิร์ฟมาในขนาดพอดีคำ ทานคู่กับเครื่องดื่มจะช่วยเสริมความอร่อยไม่น้อย

เพราะไอเดียสร้างสรรค์ไม่มีขีดจำกัด สำรับใหญ่ได้นำเมนูขนมแบบไทยๆ มาดีไซน์ขึ้นมาใหม่ตามแบบฉบับของร้านสำรับใหญ่เอง โดยการดีไซน์ขนมให้หยอกล้อไปกับเทศกาลสำคัญ จัดเป็นเซ็ทรับประทานกับเครื่องดื่ม และเรื่องเล่าที่ชวนติดตาม เป็นหนึ่งการสร้าง soft power ให้กับขนมไทย คนรุ่นใหม่เห็น เป็นอันต้องติดตาม

• เกสรลำเจียก : ขนมไทยโบราณสมัยรัชกาลที่ 2 ได้เผยแพร่รสมือความอร่อยจากในรั้วในวัง จนกลายมาเป็นขนมประจำท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง ตัวขนมนั้นแต่เดิมจะทำจากแป้งข้าวเหนียวอบควันเทียน สอดไส้ด้วยมะพร้าวขูดฝอย จับจีบเป็นรูปดอกลำเจียก สีสันพาสเทลที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ แต่สำรับใหญ่นั้นได้เพิ่มความร้อนแรง ไล่เฉดสีจากสีชมพูไปจนถึงฟ้าเทอร์ควอยซ์ ให้ความรู้สึกเหมือนพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า ปรับเนื้อแป้งให้เหนียวนุ่มเป็นพิเศษ ลดความหวานของไส้มะพร้าวให้น้อยลง ทานคู่กับเครื่องดื่มสมุนไพรสมูทตี้ เป็นของว่างยามบ่ายที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
• เปรตสติ๊ก : ของว่างที่ดัดแปลงจากขลุ่ยปูของว่างโบราณ ด้วยไส้ที่ทำจากกุ้ง กับสามเกลอ ห่อด้วยแป้งปอเปี๊ยะจัดทรงสูง โดยมีหน้าของเจ้าเปรตตัวน้อยน่ารักอยู่ที่ปลายด้านบน กรอบนอกนุ่มในไส้หอม ๆ เข้ากันดีกับน้ำจิ้มบ๊วย จากประเพณีพิธีกรรมชิงเปรตของทางภาคใต้ สู่เมนูขนมที่มีดีไซน์ และเรื่องเล่าที่ไม่เหมือนใคร เปรตสติ๊ก จึงมักจะถูกถามถึงกันอยู่เสมอ เหมาะสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ของเหล่าคนชอบถ่ายรูป และปาร์ตี้ฮัลโลวีน ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

วินาทีที่ มิลลิ แร็ปเปอร์หญิงชาวไทย ได้โชว์ทานข้าวเหนียวมะม่วง บนเวที Coachella เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก ทำให้เกิดปรากฎการณ์ข้าวเหนียวมะม่วงฟีเวอร์ หันไปทางไหนก็เจอแต่คนทานข้าวเหนียวมะม่วง ร้านมะลิซ้อนก็เช่นกัน ด้วยความที่เชฟเป็นคนรุ่นใหม่ จึงได้นำเมนูข้าวเหนียวมะม่วงมาดัดแปลงเป็นขนมทาร์ต ก่อนวางท็อปด้วยข้าวเหนียวใบเตย

บีบมูสที่ทำจากกะทิสดลงไป ปิดท้ายด้วยมะม่วงสีเหลืองทอง เป็นเมนูที่สอดรับกระแส soft power พอดิบพอดี แพ็คเกจจิ้งสวยงาม ทำให้ยอดขายถล่มทลาย

เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่เอาใจสายถ่ายรูป เหล่า Content creater ประจำ Instagram และ Tik Tok ต่างต้องเคยมาเช็กอินที่ร้านนี้ เพราะที่นี่นอกจากเมนูขนมไทยจะสวยงาม ร่วมสมัยแล้ว ตัวร้านก็ตกแต่งเป็นดอกไม้นานาชนิด สีสันฉูดฉาดงดงามเป็นเอกลักษณ์  ใครเห็นเป็นต้องจำได้ ขนมที่นี่จะจัดเสิร์ฟออกมาด้วยเครื่องทองเหลืองสุดชิค เหมาะกับการสั่งมาถ่ายรูปเป็นที่สุด ขนมหวานทั้งสองเมนูในโครงการ Thai Dishcovery เค้กสังขยาฟักทองเชื่อม” และ “เค้กบัวลอยไข่หวานใบเตย” เข้ากันกับโซดาทองหอมและทองไทย สร้างมิติใหม่ในการนำเสนอขนมไทยไม่น้อย เป็นร้านขนมทีจัดเต็มขนาดนี้ ก่อนทาน ต้อง camera eat first อัพรูปลงโซเชียลให้เพื่อนๆ ได้อิจฉาเล่น

เอฟวี ร้านขนมไทยที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารโบราณย่านถนนทรงวาด ร้านแห่งนี้ยังคงซึ่งกลิ่นอายโรงน้ำชา สถานที่พบปะสังสรรค์ของคนยุคอากง อาม่ายังสาวๆ ภายในจัดแสดงผลงานศิลปะให้เราได้พักผ่อนหย่อนใจ ตัวขนมนั้นทำตามคอนเซ็ปท์ของทางร้าน คือ เน้นการนำวัตถุดิบพื้นบ้าน มาผสมผสานดัดแปลงให้เข้ากับความเป็นสมัยใหม่ ชื่อ เอฟ วี ย่อมาจาก  Fruit และ Vetgetable ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่า ทานขนมร้านนี้ ดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

• ดอกลำดวนชีสเค้ก : ขนมไทยโบราณที่หาทานได้ยาก ทางร้านได้จับมาผสมผสานกับชีสเค้กสูตรพิเศษ เนื้อสัมผัสเนียน ชีสเค็มออกรสเปรี้ยวอมหวาน เค็มตาม วางขนมดอกลำดวนไว้ด้าน on top ทานคู่กับเครื่องดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพรตามฤดูกาล จะทำให้รสชาติของขนมอร่อยยิ่งขึ้น
• บัวลอยธัญพืช : เราเห็นบัวลอยหลากสีกันมาก็มากแล้ว เอฟวี ครีเอทใหม่ไม่เหมือนใคร กับเมนู “บัวลอยธัญพืช” ที่มีส่วนผสมจากข้าวเหนียวดำลืมผัว ถั่วแดง และถั่วมะแฮะ กวนจนแป้งเหนียวกำลังดี ปั้นเป็นก้อน นำไปเสียบไม้ เวลาทานราดด้วยน้ำกะทิรสชาติเข้มข้น หวานมัน แล้วโดยด้วยงาขี้ม่อนเพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบ เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมไทยที่สามารถทานได้บ่อยๆ แล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

สัมปันนี และอาลัว แฝดคนละฝาที่คนมักสงสัย เข้าใจว่าเป็นขนมชนิดเดียวกัน ขนมสองชิ้นนี้ ยังคงโลดแล่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับร้อยปีตั้งแต่สมัยท้าวท้องกีบม้าได้คิดค้นประดิษฐ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยา ร้านเสน่ห์จันทร์ได้เอาแม่หญิงมาถอดสไบ จับแจ่งเนื้อแต่งตัวเสียใหม่ให้ตามเทรนด์ปี 2022

• เค้กมะพร้าวสัมปันนี และอาลัวทะเลทิพย์ : เป็นเมนูขนมไทยที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย ขนมสัมปันนีเนื้อเนียนนุ่ม สอดไส้มะพร้าวอ่อน ของดีประจำจังหวัดนครปฐม ตกแต่งด้วยขนมอาลัวที่ทำจากแป้ง กวนกับกะทิ และน้ำตาล ขึ้นรูปออกมาเป็นปู ปลา หอย และสัตว์น้ำต่างๆ นำมาจัดเรียงบนขนมเค้กที่เตรียมไว้  เป็นขนมไทยธีมโลกใต้ท้องทะเล สีสันสวยงาม น่ารับประทาน

สุดยอดขนมแห่งยุคปี 2022 นี้ จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเมนูขนมบ้าบิ่น

แต่เดิมเป็นเมนูขนมโปรตุเกส ชื่อ “กลชาดาซ เดอ กรูอิงบรา” (Queijadas de Coimbra) คนก็เรียกสั้นๆ กันจนติดปากว่า “บรา” แล้วต่อมาก็ได้มีการใส่คำว่า “บิ่น” เพิ่มเข้าไป จนกลายมาเป็นขนมบะบิ่นในที่สุด ทำจาก แป้งข้าวเหนียวผสมกับมะพร้าว และนํ้าตาลทราย ขนมบ้าบิ่นถึงแม้ว่าจะหาทานได้ทั่วไป แต่มีร้านหนึ่ง ที่กว่าจะได้ทานสักหนึ่งชิ้นบางทีต้องต่อแถว จองคิวนานนับเดือน “ขนมบะบิ่นกัส-โต้” ร้านที่จุดกระแสความนิยมขนมบ้าบิ่นฟีเวอร์ ที่ได้นำเอาขนมสูตรโบราณแต่ดั้งแต่เดิมมาปรับเสียใหม่ รสชาติหวานน้อยลง เนื้อสัมผัสของแป้งนั้นนุ่มเหนียว อัดแน่นไส้ทะลักไปด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนที่คัดคุณภาพมาอย่างดี หากได้ทานตอนร้อนๆ พึ่งสุกจากเตา จะยิ่งทวีคูณความอร่อยเป็นพิเศษ

มนต์เสน่ห์ของรสชาติที่หอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำตาลโตนดเมืองเพชร หนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่อยู่ในทุกเมนูคาวหวาน หากขาดสิ่งนี้ไปอาจทำให้เมนูนั้นๆ อาจไม่มีมีกลิ่นหอม และรสกลมกล่อมอย่างที่เคย ดุ๊ ร้านขนมสุดชิคใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่จัดเสิร์ฟน้ำตาลเมืองเพชรในรูปแบบ drinkable เครื่องดื่มที่ตักทานได้ กับสองเมนูสุดฮิต “ดุ๊” และ “ดุ๊ Vegan” จะทำให้คนรุ่นใหม่อย่างเราๆ ได้ทำความรู้จักน้ำตาลเมืองได้ดียิ่งขึ้น

• ดุ๊ : เมนู Signature ของทางร้าน ที่นำเอาลอดช่องน้ำตาลโตนดมาประยุกต์เป็นเมนูเครื่องดื่ม จะทานแบบตักก็ได้ หรือใช้หลอดดูดแบบชาไข่มุกก็เท่ไปอีกแบบ เมนูนี้อัดแน่นไปด้วยท็อปปิ้งอย่างโตนดเจลลี่ ลูกตาลเจลลี่ เค้ยวหนึบหนับ ดังโงะลูกตาล และแมงลัก ให้รสสัมผัสที่เก๋แหวกแนวไม่เหมือนใคร ใส่ลงในแก้วนมสุดเข้มข้น ดื่มง่าย เคี้ยวสนุกเพลิดเพลิน
• ดุ๊ Vegan : องค์ประกอบความอร่อยเหมือนกับเมนู ดุ๊ Signature ทุกอย่าง เพียงแต่ปรับเปลี่ยนสูตรลดปริมาณความหวาน เอาใจเหล่าบรรดานักชิมสายรักสุขภาพ จากนมสด เป็นนมถั่วเหลือง แต่ยังคงความเหนียวหนึบหนับของโตนดเจลลี่ยังคงอร่อยเข้มขึ้นเหมือนเดิม

สมดังชื่อสวรรค์แห่งคนรักขนมหวาน Heaven On Earth By Chankanom ร้านขนมไทยที่ตั้งอยู่บนถนนสายวัฒนธรรมไทย-จีนที่ไม่มีวันหลับไหล ถนนเยาวราช ถนนสายนี้ขึ้นชื่อด้วยเรื่องของกิน มีให้เราได้เลือกตั้งแต่ Street food ร้านอาหาร คาเฟ่ ภัตตาคาร และ Heaven On Earth By Chankanom ก็เป็นหนึ่งในนั้น ทางร้านได้ครีเอทกิจกรรม workshop ขนมไทยอย่างง่าย เพื่อสร้างสีสันใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว

• บัวลอยซ่อนหา : ปกติเราคงคุ้นเคยกันดี กับเมนูบัวลอยน้ำกะทิ แต่ของร้านนี้ ได้จับบัวลอยมาแต่งตัวเสียใหม่ ให้มีสีสันสวยงามโดดเด่น เนื้อแป้งเหนียวหนึบ สอดไส้เพื่อเพิ่มรสสัมผัส ก่อนนำไปเสียบไม้คล้ายขนมดังโงะของญี่ปุ่น เวลาทานราดน้ำซอสกะทิลงไป ปิดท้ายด้วยฝอยทอง และงา สามารถเดินทานได้ง่าย
• ขนมดอกมะลิ : ภายใต้คอนเซ็ปท์ “ขนมไทยเพื่อคนที่เรารัก”ทางร้านภูมิใจนำเสนอ “ขนมดอกมะลิ” สัญลักษณ์แห่งความรักแบบไทยๆ มาใช้สาธิตให้ลงมือทำด้วยความละเมียดละไม แต่สนุกและแนะนำเทคนิคการตกแต่งรูปลักษณ์ให้กลายเป็นของขวัญที่มีสไตล์ แทนคำอวยพรได้ทุกเทศกาลพิเศษเพื่อมอบให้คนพิเศษที่เรารัก วัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้เกิดกระแสการนำขนมไทยมาแทนการใช้เบเกอรี่อวยพรวันเกิด ปีใหม่ วันแม่ และวันพิเศษต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อสืบสานค่านิยมวัฒนธรรมความเป็นไทยให้คงอยู่ต่อไปได้ในทุกยุคทุกสมัย ขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อน ใครๆ ก็ทำได้ ประกอบด้วย แป้งเค้ก น้ำตาลทราย กะทิ น้ำลอยดอกมะลิ ขั้นตอนการทำ จะนำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟกวนจนแป้งได้ที่ จากนั้นพักแป้งให้เย็นแล้วนำแป้งไปหุ้มไส้ ก่อนจะจับจีบให้สวย ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นภูมิปัญญา ความประณีต ตามเอกลักษณ์ของขนมไทยลุคใหม่จะมีความหวานพอเหมาะสำหรับสายสุขภาพ

Cafe Cococano คาเฟ่ลับๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ย่านพระราม 2 เอกชัย บางบอน ชื่อร้านมีที่มาจากคำว่า Coconut+Americano จุดเด่นคือ การนำเมนูเครื่องดื่มต่างๆ มาผสมผสานกับน้ำมะพร้าว และขนมไทย เป็นความหวานหอมให้ความรู้สึกสดชื่นแบบใหม่ ที่ควรมาลิ้มลอง เปิดตัวกับโครงการ Thai Dishcovery กับ 2 เมนูไฮไลท์

• Bua Loy Refreshing : เมนูใหม่สีชมพูพาสเทลสวยงามสะดุดตา สร้างสรรค์มาจากการนำน้ำยาอุทัยทิพย์ที่เราเคยทานในวัยเด็ก มาผสมกับนม แบ่งชั้นเป็นเลเยอร์ดูแปลกใหม่ ท็อปปิ้งด้วยเม็ดไข่มุกบัวลอย เคี้ยวหนึบหนับสนุกเพลิดเพลิน เติมความหวานจากธรรมชาติด้วยไซรัปน้ำมะพร้าว เป็นเมนูที่สวยงาม ให้คะแนนเต็มสิบแบบไม่มีหัก เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่สุด
• Bua Loy Black Sesame Frappe : คล้ายเมนู Bua Loy Refreshing เพียงแต่เปลี่ยนจากน้ำยาอุทัย เป็นงาดำหอม ซึ่งเมนูนี้จะมีความหวานที่น้อยลง เหมาะแก่คนที่อยากทานเครื่องดื่มสไตล์คาเฟ่ แต่เป็นห่วงเรื่องความหวาน อยากรักษาสุขภาพ

Divana Signature Cafe คาเฟ่ดอกไม้สุดอลังการกลางห้างเซ็นทรัลเวิล์ด แฝงไปด้วยความหรูหราตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษ พร้อมกลิ่นหอมๆ เหมือนเข้าไปอยู่ท่ามกลางสปาสุดหรู เมนูแนะนำที่มาพร้อมความอลังการให้เราได้ตื่นตะลึง อยากจะหยิบโทรศัพท์มาเก็บรูป โพสต์อวดเพื่อนบนโลกโซเชียล กับ “Divana Afternoon Tea Set” เมนูของว่างยามบ่ายที่อัดแน่นมาราวกับมื้อพิเศษระหว่างวัน จัดเต็มด้วยเมนูของคาว ของหวาน สัญชาติไทย และตะวันตกกว่า 10 ชนิด ที่จัดเสิร์ฟบนเครื่องทองเหลืองที่แสนหรูหรา ชูธงมาด้วยมผกากรองเนื้อเนื้อเนียนนุ่มละมุน วุ้นดอกไม้ ข้าวเหนียวมะม่วง สโคน มูสมะม่วง คัพเค้กเนยสด พานาคอตต้าบลูเบอร์รี่ คานาเป้ ไก่สะเต๊ะ ช็อคโกแลตลาวา เสิร์ฟพร้อมกับชาสูตรพิเศษเฉพาะของดีวานา ที่มีชาให้เลือกทั้งหมด 6 กลิ่น 6 รสสัมผัส หอมฟุ้ง ช่วยผ่อนคายความเครียด เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายคอนเทนท์ต้องห้ามพลาด

มหัศจรรย์ความลงตัวของขนมสองสัญชาติ ที่ห่างกันไกลสุดขอบโลก สู่กับการ Mix & Match กับคอนเซ็ปต์ East meet West ได้อย่างลงตัว Yellow Spoon Pastry ภูมิใจนำเสนอ เมนูไทไท 4 เมนูขนมเค้กหน้าขนมไทย ที่อร่อยทั้งรสชาติ สวยงามทั้งรูปลักษณ์ เป็นการต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เป็นที่สุด

• เค้กขนมใส่ไส้ : จากขนมไส่ไส้ตามตลาด หรือแม่ค้าหาบเร่แผงลอย รสชาติในวัยเด็กยังตราตรึงใจ สู่การดีไซน์ใหม่ เป็นขนมเค้กาวเหนียวดำเนื้อนุ่มสลับชั้นครีมกะทิสด ใส่ไส้มะพร้าว รสชาติหวานเค็ม มันๆ กำลังดี
• เค้กมะพร้าวอ่อน ข้าวโพดย่าง : หนึ่งในเค้กยอดนิยมของคนไทย เค้กมะพร้าวอ่อนของ Yellow Spoon Pastry ขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบคุณภาพ เป็นมะพร้าวออร์แกนิคมาจากนครปฐม ที่คัดสรรค์อย่างพิถีพิถันกว่าจะได้มะพร้าวสักลูกที่นำมาทำขนมได้ ทั้งเนื้อ และน้ำมะพร้าวที่หวานหอม ถูกนำมาผสมทั้งในเนื้อแป้งเค้ก และครีม ทำให้เนื้อเนียนนุ่ม ความหวานจากธรรมจากถูกใจสาย healthy ก่อนนำข้าวโพดย่างไปวางปิดท้าย เพิ่มรสสัมผัสให้เคี้ยวเพลินเคี้ยวสนุก
• บัวลอยเผือกชีสพาย : ชีสพายที่อัดแน่นไปด้วยซอสเผือกรสนุ่ม ท็อปปิ้งด้วยเม็ดบัวลอยเหนียวหนึบหนับ
• ลอดช่องวัดเจษชีสพาย : ลอดช่องวันเจษแนวใหม่ ที่ตัวเนื้อลอดช่องสีเขียวๆ ถูกดัดแปลงเป็นเยลลี่ ครีมชีสทำมาจากน้ำตาลโตนดเมืองเพชร รองด้วยฐานชีสพายเค็มๆ มันๆ เป็้นลอดช่องวัดเจษเวอร์ชัน 2022 ที่ทานง่าย ถึงตัวจะเป็นฝรั่งต่างชาติ แต่ยังคงกลิ่นอายความอร่อยแบบต้นตำรับไม่เปลี่ยนแปลง

Molto Premium Gelato ไอศครีมเจลลาโต้พรีเมี่ยมสัญชาติไทย ที่กำลังโด่งดังท็อปฮิตติดเทรน์ดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ จนแถวต่อคิวยาวล้นหน้าร้าน นอกนอกจากไอศกรีมคุณภาพเยี่ยมแล้ว ร้านนี้ยังเติมแต่งความคิดสร้างสรรค์ คิดค้นไอศครีมรสชาติใหม่ๆ อยู่เสมอ และมีการ collab จากร้านเด็ดร้านดังต่างๆ ออกไอศครีมมา เรียกได้ว่าลองชิมวันละ 1 รสชาติ ตลอดทั้งปีก็ลองทานไม่หมด และสำหรับโครงการ Thai Dishcovery ทาง Molto ร่วมกับร้าน ขนมไทยบ้านทองหยอด จัดทำเมนู Thai Series ขึ้น โดยมี “ไอศกรีมลอดช่องวัดเจษ” และ “ไอศกรีมกะทิฝอยทอง” เป็นไฮไลท์

• ไอศกรีมลอดช่องวัดเจษ : ลอดช่องวัดเจษษ ในรูปแบบเจลาโต ด้วยน้ำกะทิเคี่ยวสีน้ำตาลอ่อน พร้อมเนื้อลอดช่องเน้นๆ ผสมขนุนหวานๆ สอดแทรกลงในเนื้อไอศกรีม ให้รสสัมผัส หวาน มัน หนึบ ในหนึ่งคำ ช่วยสร้างความสดชื่นระหว่างวัน ดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี
• ไอศกรีมกะทิฝอยทอง : ใครติดใจความอร่อยลงตัวของเจลาโตเบสกะทิ สอดแทรกความหวานจับใจของฝอยทองแบรนด์ดัง มีเซอร์ไพรส์เป็นมะพร้าวกะทิแก้ว ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม หนึบ เคี้ยวเพลิน ตักหายเข้าปากแบบหยุดไม่ได้

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ทานขนมไทยในร้านคาเฟ่สไตล์อิตาเลียน “ร้านLe Khwam Luck Café” ภายใต้บรรยากาศสวนที่สวยงามสงบร่มรื่นแห่งเดียวในย่านเอกมัย ซอย 22 ที่จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับเมนูอาหารสุดพิเศษ เคล้าคลอไปกับไวน์เลิศรส และเสียงดนตรี ขนมไทยของร้านนี้แตกต่างไปจากร้านอื่น คือ ดัดแปลงขนมเบเกอร์รี่สไตล์ตะวันตก ผสมผสานไปกับความเป็นญี่ปุ่น และไทย อาจเรียกได้ว่าเป็นเมนูทั้งลูกครึ่ง และลูกเสี้ยว สร้างความแปลกใหม่แห่งรสชาติ “ขนมเบื้องโบราณ (Kanom Bueang)” และ “ขนมหม้อแกง (Pumpkin Custard)” 2 เมนูใหม่ ที่ทางร้านสร้างสรรค์มาเป็นพิเศษ เพื่อโครงการ Thai Dishcovery โดยเฉพาะ ที่เชฟอยากเชิญชวนให้คุณมาลิ้มลอง

• Kanom Bueang Croissant : จากขนมเบื้องของไทยสู่การผสมผสานกับครัวซองต์ของฝรั่งเศส โดยกรรมวิธีการนำกุ้งขาวและมะพร้าวทึนทึก ผัดกับสามเกลอไทย ได้แก่ รากผักชี กระเทียม พริกไทยและใส่มันกุ้งกับใบมะกรูด หั่นฝอยเพื่อเพิ่มความหอม สอดไส้บนอิตาเลียนเมอแรงค์ จากน้ำเชื่อมดอกมะลิ ทานคู่กับครัวซองต์ของฝั่งเศสเข้ากันอย่างลงตัว
• Thai Pumpkin Custard : ขนมหม้อแกงของไทย ผสมผสานกับคาสเทล่าเค้กญี่ปุ่น โดยการนำฟักทองสุกมาทำเป็นหม้อแกงกะทิโบราณของไทย และใช้เทคนิคการอบเค้กแบบ Upside down โดยเนื้อเค้กเลือกใช้คาสเทล่าญี่ปุ่นที่มีรสสัมผัสใกล้เคียงกับขนมหม้อแกงไทยทานคู่กับหอมเจียวทอดกรอบ จะได้ขนมไทยฟิวชั่นที่ไม่ธรรมดา